Volkswagen Beetle Convertible รุ่นใหม่ล่าสุด
ทิ้งระยะจากการเปิดตัวรุ่น 2 ประตูได้ไม่นาน คราวนี้ถึงคิวของเวอร์ชันเปิดหลังคารับสายลมของบีเทิลใหม่แล้ว โดยโฟล์คสวาเกนเผยโฉมรุ่น Convertible ออกมาแล้ว และเตรียมเปิดตัวทำตลาดช่วงเดือนหน้า ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา
โดยเน้นหนักไปที่ตลาดแห่งหลัง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ใหม่ของโฟล์คสวาเกนไปแล้ว
รุ่นเปิดประทุนของโฟล์คเต่าถือเป็นอีกตัวถังที่อยู่คู่กับชื่อนี้มานาน และเปิดตัวครั้งแรกกับรหัส Type 15 ในปี 1949 ซึ่งก็ทำตลาดเรื่อยมาอย่างไรก็ตามไลน์ผลิตของรุ่นเปิดประทุนยุติลงพร้อมกับการผลิตโฟล์คเต่ารุ่นปกติในยุโรปช่วงปี 1980 และตลอดช่วงของการทำตลาดระหว่างปี 1949-1980 แม้ว่าจะยาวนาน แต่ทว่าความนิยมในตัวถังเปิดประทุนกลับมีไม่มากเท่ากับรุ่นหลังคาแข็ง โดยมียอดการผลิตอยู่ที่ 330,000 คันเท่านั้น
แม้จะหายหน้าไปนานร่วม 20 ปี แต่เมื่อโฟล์คสวาเกนเปิดตัวนิวบีเทิลออกมาในปี 1998 พวกเขาก็ไม่พลาดที่จะนำตัวถังเปิดประทุนกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง โดยนิวบีเทิล Convertible เผยโฉมครั้งแรกปี 2002 หรือตามหลังการเปิดตัวรุ่นหลังคาแข็งนานถึง 4 ปี
รุ่นเปิดประทุนของโฟล์คเต่าถือเป็นอีกตัวถังที่อยู่คู่กับชื่อนี้มานาน และเปิดตัวครั้งแรกกับรหัส Type 15 ในปี 1949 ซึ่งก็ทำตลาดเรื่อยมาอย่างไรก็ตามไลน์ผลิตของรุ่นเปิดประทุนยุติลงพร้อมกับการผลิตโฟล์คเต่ารุ่นปกติในยุโรปช่วงปี 1980 และตลอดช่วงของการทำตลาดระหว่างปี 1949-1980 แม้ว่าจะยาวนาน แต่ทว่าความนิยมในตัวถังเปิดประทุนกลับมีไม่มากเท่ากับรุ่นหลังคาแข็ง โดยมียอดการผลิตอยู่ที่ 330,000 คันเท่านั้น
แม้จะหายหน้าไปนานร่วม 20 ปี แต่เมื่อโฟล์คสวาเกนเปิดตัวนิวบีเทิลออกมาในปี 1998 พวกเขาก็ไม่พลาดที่จะนำตัวถังเปิดประทุนกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง โดยนิวบีเทิล Convertible เผยโฉมครั้งแรกปี 2002 หรือตามหลังการเปิดตัวรุ่นหลังคาแข็งนานถึง 4 ปี
แต่สำหรับรุ่นใหม่ของบีเทิลซึ่งเป็นการกลับมาใช้ชื่อบีเทิลเหมือนเดิม ไม่ใช่นิวบีเทิล คนที่รักการขับแบบท้าสายลมไม่ต้องรอกันนานถึงขนาดนั้น เพราะว่าการเปิดตัวของบีเทิล Convertible มีขึ้นแล้ว โดยรุ่นนี้มีการอ้างอิงรายละเอียดของรูปลักษณ์รอบคันมาจากตัวถังหลังคาแข็ง พร้อมกับเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้กับลูกค้าด้วยการติดตั้งหลังคาอ่อนแบบพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งจะทำงาน เมื่อขับด้วยความเร็วไม่เกิน 30 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภายในสะดวกสบายเพราะว่าบีเทิล Convertible มาแบบตัวถัง 4 ที่นั่ง ไม่ใช่แบบ 2+2 ที่นั่ง พื้นที่ด้านหลังกว้างขวางสามารถรองรับกับผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายมีแบบพอประมาณ 225 ลิตร ขณะที่หลังคาอ่อนจะถูกพับเก็บเอาไว้ที่ด้านหลังของเบาะนั่งหลัง ส่วนใครที่ต้องการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาวกว่าพื้นที่ของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าพนักพิงของเบาะหลังสามารถแยกพับลงมาได้
ภายในสะดวกสบายเพราะว่าบีเทิล Convertible มาแบบตัวถัง 4 ที่นั่ง ไม่ใช่แบบ 2+2 ที่นั่ง พื้นที่ด้านหลังกว้างขวางสามารถรองรับกับผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายมีแบบพอประมาณ 225 ลิตร ขณะที่หลังคาอ่อนจะถูกพับเก็บเอาไว้ที่ด้านหลังของเบาะนั่งหลัง ส่วนใครที่ต้องการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาวกว่าพื้นที่ของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าพนักพิงของเบาะหลังสามารถแยกพับลงมาได้
ไม่ต่างจากตัวถังหลังคาแข็ง ทางเลือกของเครื่องยนต์ที่จะได้สัมผัสจากตัวถังเปิดประทุนมีให้เลือกหลากหลายและเป็นแบบ 4 สูบเรียงทั้งหมด เริ่มจากรุ่นเล็กสุดซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน TSI มีความจุเพียง 1,200 ลิตรแต่สามารถเบ่งกล้ามออกมาได้ 105 แรงม้า ตามด้วยรุ่น 1,400 ซีซี TSI และ 2,000 ซีซีซึ่งมีกำลังอยู่ที่ 158 และ 196 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1,600 และ 2,000 ซีซี ซึ่งมีกำลังอยู่ที่ 105 และ 138 แรงม้า
ใครที่สนใจก็เก็บเงินรอกันได้เลยเพราะเต่าเปิดประทุนเตรียมวางขายแล้ว โดยในเยอรมนีจะเริ่มรับจองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ โดยตั้งราคาเอาไว้ที่ 854,000 บาท
ที่มา ผู้จัดาการ http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000128202
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น